สัดส่วนที่เหมาะสมจะเป็น ญี่ปุ่น 2 คน ต่อ ล่าม 1 คน ครับ
แต่ถ้าพ่วงงานเลขาหรือทำงานของแผนกนั้นๆ ด้วยก็จะเป็น 1:1 ครับ
ซึ่งญี่ปุ่น 6-7 คนโดยใช้ล่ามแค่คนเดียว ถือว่าตึงมือเอาเรื่อง แนะนำว่าควรจ้างล่ามเพิ่มอีก 2 คน
ทั้งนี้ระหว่างที่ยังไม่ได้ล่ามเพิ่ม แนะนำว่าให้เซทระบบการทำงานตามนี้
1. เวลาทำงานปกติ ใช้สำหรับการแปลพูดเป็นหลักมาก่อน (ถ้าว่างจากนั้นค่อยแปลเอกสาร)
2. เวลา OT และการทำงานในวันหยุดให้ใช้สำหรับแปลเอกสารเท่านั้น (ขอสงวนสิทธิ์งดเรียกไปแปลพูด)
3. ทำตารางเขียนจองตัวล่ามเป็นรายสัปดาห์ แปะกระดานไว้ในที่ๆ เห็นได้ง่ายและเขียนสะดวก แล้วให้ User มาเขียนจองกันเอาเอง (เหมือนกับการจองห้องประชุม)
4. งานแปลเอกสารให้สั่งทางอีเมลเท่านั้น โดย CC ให้คนญี่ปุ่นอื่นๆรับทราบ แล้วให้เราสรุปลงในตาราง Excel แสดงลำดับก่อน-หลัง แล้วปริ้นไปแปะไว้ในกระดานเดียวกันกับในข้อ 3 เพื่อให้ User ทราบสถานะของงานแปล
5. ทำงานตาม FIFO ใครสั่งก่อนได้ก่อน, ถ้าใครจะขอแทรกคิว ให้ไปคุยกันเอง ตกลงได้แล้วค่อยมาบอกล่าม
6. งานเลขาให้แทรกเวลาไปในข้อ 1 และ 3 โดยเรา (หรือไอ้คนที่สั่งให้เราทำ) เป็นคนเขียนจองเวลาของตัวเราเองลงไป โดยแนะนำว่าให้เขียนเวลาเดียวกันของทุกสัปดาห์ เช่น ทุกวันพุธและศุกร์ 13:00-15:00 เพื่อให้ User เกิดความเคยชินและง่ายต่อการวางแผนงาน
จริงๆ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ, แต่เอาส่วนหลักๆ ไปก่อนแล้วรายละเอียดที่เหลือลองไปปรับใช้ดูตามเหมาะสมของตัวเองดูครับ
ปล. งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่เงินน้อยตะหากที่จะทำให้ฉันตาย
ปล2. ระบบที่กล่าวไว้สามารถช่วยให้ทำงานเสร็จได้ทันในระดับหนึ่ง แต่อย่าไปขยันมากละ ดึงๆ ถ่วงๆงานไว้บ้าง ไม่งั้นแล้วเค้าจะไม่จ้างคนเพิ่มให้นะ
ปล3. การพิจารณาจ้างคนเพิ่ม ส่วนใหญ่แล้วจะดูจากชม. OT ของพนักงานที่มีอยู่ + งานเสร็จทันตามต้องการหรือไม่ประกอบกัน (นั้นคือถ้าอยากให้เค้าจ้างคนเพิ่มให้ไวๆ ให้โหมทำ OT ไปเดือนละเยอะๆ)