สวัสดีครับ คุณ justme
ผมเพิ่งกลับมาเพิ่มเติมข้อมูลล่าสุดในกระทู้หนึ่งที่เกี่ยวกับวงการการศึกษาของประเทศเรา ซึ่งมีข่าวว่าไปซื้องานวิจัยจากต่างประเทศแล้วนำมาเป็นผลงานตนเอง วิจัยข้ามสาขามากมาย มีจำนวนผลงานวิจัยต่อปีมากเกินกว่าค่าเฉลี่ยของนักวิจัยโดยปรกติจะทำได้ ฯลฯ ผมก็ได้แต่หวังว่าผลการสอบจะมีผลไปถึงผู้ที่มีอำนาจอนุมัติให้จ่ายค่าตอบแทนให้กับนักวิจัยเหล่านี้ด้วย ว่าทำไมถึงเซ็นอนุมัติ ? คุณเป็นระดับผู้บริหารแล้ว ทำไมจึงมองไม่เห็นเรื่องผิดปรกติอย่างนี้ ? ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบของตนให้เป็นวัฒนธรรมการทำงานที่ดีอย่างเป็นรูปธรรมด้วย และผมก็ได้มาพบ-อ่านกระทู้นี้ รวมถึงกระทู้ก่อนหน้าด้วยคือ "
รู้ศัพท์ แต่พอจะพูดก็นึกไม่ออก ตอนฟังก็นึกความหมายไม่ออก ทำยังไงดีคะ"
https://towaiwai.com/topic/165705/ โดยส่วนตัวผมไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุณ justme และเนื้องานที่ทำเป็นประจำในบริษัทนี้ (ตอนทำงานปรกติทำการล่ามแต่เฉพาะแผนกใดแผนกหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่คุ้นเคยงานแผนกอื่นๆของทั้งบริษัท แล้วต้องมาล่ามเนื้องานทั้งหมดในการประชุมใหญ่จากคนทุกแผนกหรือเปล่า ?) ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐาน-ประสบการณ์ในการทำงานที่ใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่น เพิ่งเริ่มทำงานล่ามมาไม่นานหลังจบการศึกษาหรือเพิ่งเริ่มทำงานล่ามในเนื้องานตามปัจจุบันนี้ ฯลฯ แต่ก่อนอื่นผมก็อยากให้กำลังใจคุณ justme และขอให้คิดถึงความหมายของชื่อที่นำมาตั้งคือ
"just me (มีแค่ฉันเท่านั้น)" ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมคิดว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องยืนด้วยลำแข้งของตนเองเท่านั้นที่จะมีส่วนช่วยในการล่ามนี้เป็นส่วนสำคัญได้มากกว่าสิ่งอื่นใด สำหรับคำแนะนำจากท่านอื่นๆก็ขอให้เป็นส่วนประกอบที่จะนำมาใช้ในการเพิ่มทักษะของเราร่วมด้วย
ตามที่คุณ justme ทราบว่าวิธีแก้ไขแล้วป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ได้ หรือเกิดขึ้นได้แต่มีระดับที่ฟังไม่ออก-ล่ามไม่ได้ลดลงเรื่อยๆ ด้วยการฝึกฟังบ่อยๆ ผมขอเสนอให้ใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้น อดทนมากขึ้นด้วยการทดลองอัดเสียงในการประชุมที่เราคิดว่าฟังไม่ออกนี้ในครั้งถัดไป แล้วนำมาแกะโดยการเปิดฟังซ้ำๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เราฟังไม่ออกนั้น(ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการฟังนอกเหนือเวลาทำงานปรกติ หากว่างานยุ่งจนไม่มีเวลาว่างเลย) ไม่ว่าจะเกิดจากผู้ประชุมคนนั้นๆ พูดเร็ว ใช้คำศัพท์-สำเนียงเฉพาะถิ่นร่วมด้วย แต่เราผู้ทำหน้าที่ล่ามเคยได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นแต่เฉพาะภาษากลาง (
https://japan.mol.go.th/info/language 09 ต.ค. 2561
ในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นไม่จัดว่าสำเนียงแบบโตเกียวเป็นสำเนียงกลางอย่าง เป็นทางการ และยังมีการผสมผสานสำเนียงภาษาของแต่ละท้องถิ่นเข้าไปในสื่อและรายการโทรทัศน์ของ ญี่ปุ่น ดังนี้
จึงทำให้คนญี่ปุ่น เมื่อเดินทางไปยังถิ่นภูมิภาคอื่น ก็ยังคงพูดภาษาของถิ่นตนเองดังเดิม โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นพูดภาษากลาง เหล่านี้สามารถเห็นได้ชัดใน
นักแสดงชาวภูมิภาคคันไซญี่ปุ่น ซึ่งส่วนมากเป็นนักแสดงตลก
เมื่อเดินทางไปทำงานที่โตเกียว พวกเขาก็ยังคงพูดภาษาถิ่นคันไซของพวกเขาอยู่ดั่งเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงให้เกิดรสนิยมที่ว่าดาราตลกญี่ปุ่นต้องพูดภาษาคันไซ สาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งเช่นนี้ก็น่าจะมาจากการออกเสียงของสำเนียงคันไซ ซึ่งฟังดูไม่ลื่นไม่ไพเราะเหมือนถิ่นอื่น
กลับกันถ้า นักแสดงละคร หรือดารานักร้อง พวกเขาจะไม่นิยมคนที่พูดสำเนียงคันไซเลย) เรายังไม่มีประสบการณ์ตรงในเนื้อหาเหล่านั้น และยังมีปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมาก ผมก็หวังว่าในกรณีนี้ด้วยการมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาของคุณ justme เวลาที่ผ่านไปจะช่วยเยียวยาปัญหาให้ทุกข์ใจน้อยลงได้
เพิ่มเติมข้อมูล ( 6 ส.ค. 2566 ) บังเอิญผมได้ไปพบคลิปเกี่ยวกับ
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่น (Japanese Dialects, 日本の方言, にほんのほうげん, นิฮงโนะโฮเง็ง) ที่แตกต่างไปจากสำเนียงแถบคันไซหรือคันไซเบ็ง / คันโตหรือคันโตเบ็ง และอื่นๆ ซึ่งมีความไพเราะ-น่าสนใจ เพราะผมเพิ่งรู้ว่ามีภาษาญี่ปุ่นสำเนียงนะโงะยะด้วย ก็รู้สึกว่าน่าเรียนรู้ { คล้ายๆกับตอนที่ผมเคยได้รู้จักคำทักทายภาษาญี่ปุ่นของจังหวัดโอะคินะวะที่ใช้คำว่า はいさい หรือทอดเสียงยาวเป็น はいさーい (ไฮไซ / ไฮซาย) เป็นครั้งแรก ผ่านรายการ "ニンゲン観察バラエティ『モニタリング』" ตอน
もしも自動販売機が話かけてきたらin沖縄 ที่มีการแกล้งคนซื้อเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องจากเครื่องขายแบบอัตโนมัติ ( Automatic Vending machine, 自動販売機หรือ自販機, じどうはんばいきหรือじはんき, ยิโดฮัมไบคิหรือยิฮังคิ ) ว่ามีการพัฒนาให้ตัวเครื่องสามารถเข้าใจแล้วสนทนา-โต้ตอบกับผู้ซื้อได้ราวกับมนุษย์จริงๆ จาก
https://www.tabirai.net/sightseeing/okinawa/info/useful/dialect.aspx >>> こんにちは
>>> 男性は「はいさい」、
女性は「はいたい」。朝昼晩いつでも使える。旅行中に仲良くなった人には、元気よく「はいさい(はいたい)」と声を掛けよう。喜納昌吉のヒット曲「ハイサイおじさん」は、こんにちはおじさん、という意味だが、こんにちはと言ったのが女性なら、「ハイタイおじさん」という曲名になったはず。และจาก
https://www.youtube.com/watch?v=KvIDY89Ss7c 【#44 挨拶】「おはようございます」「おつかれさまです」「おやすみなさい」をしまくとぅばで何と言う?【しまくとぅば(琉球・沖縄の言 จากช่อง 阿波根あずさの沖縄観光チャンネル } จึงได้คัดลอกลิงก์ที่น่าสนใจของคลิป
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นต่างๆกัน ดังกล่าวบางส่วนมาวางไว้ในที่นี้ ดังต่อไปนี้
คลิปสั้นจากช่อง
Mochi Real Japanese ที่จะมีตัวอักษรประกอบคำอธิบายด้วย
https://www.youtube.com/shorts/p0qWdAJR88gJapanese dialect TOKYO vs
NAGOYA #shorts
https://www.youtube.com/shorts/TOZkLzhjH4AJapanese dialect TOKYO vs
NAGOYA Part 2 #shorts
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นของนะโงะยะเหล่านี้ ถ้าผมได้ฟังก็คงจะไม่เข้าใจเลย และบางคำยังออกเสียงเหมือนกับภาษาญี่ปุ่นมาตรฐานอีกด้วย เช่นคำว่า ちんちん (จิงจิง) ที่ภาษาญี่ปุ่นมาตรฐานจะแปลว่า อวัยวะเพศของชาย แต่นะโงะยะกลับหมายถึง-แปลว่าร้อน เป็นต้นhttps://www.youtube.com/shorts/2CSjAuiEsS0TOKYO vs
OSAKA dialect difference!!! #shorts
จากคลิปนี้ทำให้ผมเข้าใจว่า ที่คุณแม่เคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งยังเด็กสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณตลาดในตัวเมืองปราจีนบุรี และมีโอกาสได้พูดคุยตามประสาเด็กกับทหารญี่ปุ่นที่ได้เข้าประเทศไทยในทิศทางดังกล่าวนั้น คำว่า อะริงะ
โต้ (ありがとう / 有難う)
ที่ขึ้นเสียงสูงในตอนท้ายคำตามสำเนียงของโอซะคะ { หรือที่เขียนตามแบบราชบัณฑิตยสภาเป็นโอซากา-โอซากะ (ŌsakaหรือOosaka, 大阪市, おおさか, โอซะคะ) } คุณแม่น่าจะออกเสียงถูกต้องแล้วตามทหารญี่ปุ่นที่เป็นคนซี่งมาจากโอซะคะ
https://www.youtube.com/shorts/Ss7kC7SGsugTOKYO vs
OSAKA dialect difference part 2
https://www.youtube.com/shorts/9SWTR-4x2rYTokyo Dialect vs
Shimane Dialect| WHAT? I Don't Understand Any!!!
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นของชิมะเนะเหล่านี้คงเป็นไปตามชื่อคลิปคือ ไม่เข้าใจเลย แถมบางคำยังออกเสียงเหมือนกับภาษาญี่ปุ่นมาตรฐานแต่มีความหมายต่างกันไปอีกด้วย เช่นคำว่า はしる だんだん เป็นต้น คลิปจากช่อง
日本語の森 ที่จะมีตัวอักษรประกอบคำอธิบายด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=AK_4olQOO90【日本の方言】日本人でもわからない?!北海道 vs 関西 vs 関東
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นระหว่าง ฮคไคโดกับคันไซและคันโต ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็อาจจะไม่เข้าใจ คลิปจากช่อง
FBC 福井放送公式チャンネルhttps://tinyurl.com/4eth87nr現役アナウンサーが福井弁、津軽弁、関西弁、富山弁でニュースを読んでみた
ขนาดผู้ประกาศข่าวที่เป็นคนญี่ปุ่นเองก็ยังต้องถ่ายซ้ำอยู่หลายรอบ เมื่อต้องอ่านข่าวด้วย
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นที่ตนเองอาจจะไม่คุ้นเคย
คลิปจากช่อง
Green Iyonenesangohttps://www.youtube.com/watch?v=wO3DGH6DLCU日本の方言 Japanese Dialect of All Prefectures >>>
ภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นจาก 8 ภูมิภาคและ 47 จังหวัด (Prefecture) ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีผู้ที่ใช้ชื่อว่า @japaneselanguage2023
ได้พิมพ์ลำดับของแต่ละช่วงเวลาของแต่ละจังหวัดไว้ ดังนี้0:09 hokkaido 0:20 aomori 0:31 iwate 0:46 akita 0:58 miyagi 1:12 yamagata 1:23 niigata 1:38 fukushima 1:51 ibaraki 1:59 tochigi 2:14 gunma 2:22 saitama 2:31 chiba 2:41 tokyo 2:49 kanagawa 2:56 yamanashi 3:06 nagano 3:19 toyama 3:32 ishikawa 3:43 shizuoka 3:53 aichi 4:05 gifu 4:18 mie 4:31 fukui 4:42 shiga 4:58 kyoto 5:14 nara 5:28 wakayama 5:40 osaka 5:56 hyogo 6:07 okayama 6:18 tottori 6:32 hiroshima 6:45 shimane 6:58 yamaguchi 7:09 tokushima 7:20 kagawa 7:32 kouchi 7:45 ehime 7:58 fukuoka 8:10 saga 8:24 nagasaki 8:36 oita 8:49 miyazaki 9:00 kumamoto 9:14 kagoshima 9:27 okinawa
「毎日暑い日が続いていますが、お元気ですか? ここでは夏バテに何々します」を47都道府県の方言で >>>
คำเชิญชวนจากตัวแทนจังหวัดที่พูดกับพิธีกร (香取 慎吾さん / かとり しんごさん) ในห้องส่งซึ่งมีคำพูด-สำเนียงที่มีความแตกต่างกัน ในการรับมือ-แนะนำ-นำเสนอวิธีของจังหวัดตนเอง เมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนในทุกๆ วัน ด้วยภาษาญี่ปุ่นสำเนียงท้องถิ่นจาก 47 จังหวัด (Prefecture) ในประเทศญี่ปุ่นที่มีความแตกต่างกันไปหรือคลิปเดียวกันที่มาจากแหล่งอื่น
https://www.nicovideo.jp/watch/sm8774790 เป็นต้น
ส่วนเรื่องที่นึกคำศัพท์ไม่ออกทั้งๆที่รู้คำนี้อยู่แล้ว(โดยส่วนตัวผมก็เคยเป็นในช่วงหนึ่งของวัยเรียน ที่คิดว่าเรียนไปอย่างนั้นโดยไม่มีจุดหมายนัก จึงทำให้วิชาคำนวณที่เดิมผมจะเรียนด้วยความเข้าใจแล้วก็จะสามารถทำคะแนนได้ดี แต่ช่วงที่มีปัญหาไม่สนใจเรียน-ทำความเข้าใจนักจนคะแนนสอบกลางภาคมีแนวโน้มจะทำให้ผมได้เกรด F จนผมตกใจแล้วแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้วิธีการจดจำวิธีการคำนวณเข้าไปทำข้อสอบแบบอัตนัย ซึ่งจะต้องเขียนแสดงวิธีคำนวณประกอบไปด้วยก็อาจจะทำให้อาจารย์ให้คะแนนวิธีการคำนวณที่ผมเขียนตอบไปด้วยแม้ว่าจะไม่ได้คะแนนเต็มก็ตาม วิธีนี้ผู้อ่านบางท่านอาจจะคิดไม่ออกว่าทำได้อย่างไร แต่ก็ทำให้ผมได้เกรดวิชาคำนวณดีขึ้นโดยไม่ตก แต่หลังจากนั้นมาผมก็กลับไปเรียนรู้ด้วยความเข้าใจเหมือนในอดีต) ผมก็ขอเสนอแนวทางการแก้ไขคล้ายๆกันกับที่คุณ Yakineko ได้เขียนตอบในกระทู้นั้น คือให้เรียนรู้คำศัพท์ด้วยความเข้าใจที่ไม่เพียงเป็นการท่องศัพท์เพื่อจดจำเท่านั้น และอาจจะหาวิธีการเป็นของตนเองก็ได้ ยกตัวอย่างหลายคนยังไม่สามารถใช้คำว่า "คะ" กับ "ค่ะ" ได้ถูกต้องเพราะใช้สลับกัน บางคนยังเขียนคำว่า "อนุญาต" ผิดโดยการเติมสระอิจนกลายเป็น "อนุญาติ" (ผมก็จะจำแล้วทำให้เข้าใจด้วยตนเองว่าจะต้องเขียนเป็น "อนุญาต" โดยไม่มีสระอิเท่านั้น เพราะคำว่าญาติพี่น้องเท่านั้นที่จะเติมสระอิ ซึ่งคำนี้ผมก็พบว่า รศ.ดร. ท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก ก็มักจะเขียนคำนี้ผิดเช่นกัน แต่ผมก็ไม่ได้ทักท้วงกลับไป) คำว่า "สังเกต" หลายคนอาจจะจำไม่ได้แล้วเติมสระอุเข้าไปคล้ายๆกับคำว่า "หมายเหตุ" เลยเขียนผิดเป็น "สังเกตุ" (ผมก็จะจำแล้วทำให้เข้าใจด้วยตนเองว่าจะต้องเขียนเป็น "สังเกต" โดยไม่มีสระอุ ด้วยการจดจำคำนี้เป็น "สังเกตเต่า" เพื่อให้เข้าใจว่าคำนี้จะสิ้นสุดด้วยอักษร ต.เต่า) เป็นต้น และถ้าเป็นคำศัพท์เทคนิคใดๆของเครื่องจักรกลเหล่านั้น ก็ขอให้ศึกษาให้เข้าใจว่าแต่ละชิ้นส่วนนั้นๆมีหน้าที่-การทำงานอย่างไร ก็อาจจะช่วยให้เข้าใจและจดจำคำนั้นๆได้นานยิ่งขึ้น-นึกออกได้เร็วขึ้นมากกว่าการที่จะดูจากภาพนิ่งแล้วท่องจำคำศัพท์ เพราะในปัจจุบันนี้มีของจริงในโรงงานของเรา รวมทั้งมีคลิปเหล่านี้ให้เราหาดูได้จากอินเทอร์เน็ตมากกว่าในสมัยก่อนที่คนรุ่นใหม่อาจจะนึกไม่ออกว่า เมื่อประมาณ 30 ปีเศษที่ผ่านมาคลิปเหล่านี้ไม่สามารถหาดูได้จากอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเลย ดังนั้นสมัยก่อนพวกผมต้องคิด-ทำความเข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เครื่องยนต์ดีเซล ฯลฯ ให้เป็นภาพในจินตนาการให้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ในสมอง ที่เป็นการแปลงจากรูปกับเนื้อหาที่ได้อ่านจากหนังสือเท่านั้น
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้กำลังใจคุณ justme อีกครั้ง และขอให้ผ่านปัญหานี้ไปให้ได้ด้วยความมุ่งมั่นของคุณเองเป็นหลัก
อำนาจ แก้วสามัคคี
เพิ่มเติมข้อมูล ( 15 มิ.ย. 2566 ) ตัวอย่างความรู้เกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 4 จังหวะ ( 4ストローク内燃機関エンジン หรือ 4ストロークエンジン หรือ 4サイクルエンジン, 4 Stroke internal combustion Engine) ในอดีตก่อนปี พ.ศ. 2534 หรือก่อนที่จะมีอินเทอร์เน็ตให้คนไทยเราได้ใช้ศึกษาหาความรู้นั้น ( ที่ผู้ศึกษาหาความรู้จะสามารถทำความเข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์ได้จากการอ่านเนื้อหาประกอบรูปภาพในหนังสือเป็นส่วนใหญ่ )กับปัจจุบันที่สามารถหาความรู้ทำความเข้าใจได้จากอินเทอร์เน็ตที่มีทั้งเนื้อหา ภาพ คลิปที่แสดงการเคลื่อนไหวในการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยทำให้สามารถทำความเข้าใจแล้วจดจำได้เร็ว จำได้ดียิ่งขึ้น
https://www.weblio.jp/content/4%E3%82%B9%E3%83%88%E3%83%AD%E3%83%BC%E3%82%AF%E3%82%A8%E3%83%B3%E3%82%B8%E3%83%B3 หรือ
https://tinyurl.com/mtyjbtb2 4ストロークエンジン 英語 four stroke engine
クランクシャフトが2回転する間に、吸入、圧縮、膨張、排気の4つのストロークでサイクルを完了するエンジン。4ストロークサイクルエンジンの略称。1ストロークとはピストンが上死点から下死点へ、または下死点から上死点へ運動する幾何学的な行程をいい、実際に吸排気バルブが開いている期間とは異なる。2ストロークエンジンに比べて、同一排気量では出力は劣るものの、燃費、排気性能が優れているために自動車エンジンのほとんどがこのタイプである。
รูปตัวอย่างการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 4 จังหวะ ที่ผู้ศึกษาหาความรู้จะสามารถอ่านทำความเข้าใจแล้วจดจำได้ โดยการจินตนาการเป็นภาพเคลื่อนไหวในสมองประกอบคำอธิบายที่ได้อ่านนั้น
ตัวอย่างคลิปที่อธิบายการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 4 จังหวะ หรือครบ 1 วัฏจักรในการทำงานเครื่องยนต์จะเคลื่อนที่ทำงาน 4 จังหวะ (4 สโตรก) ซึ่งผู้ศึกษาหาความรู้จะสามารถเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นจากเนื้อหา-ความรู้ คลิปที่แสดงการเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ตลอด 360 องศา ฯลฯ ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
https://www.youtube.com/watch?v=edeEQ7tPKMg 4サイクルエンジン解説 意外と知らない正式名称? 4つのサイクル?
https://www.youtube.com/watch?v=5pBN9QL7ApQ 4サイクルエンジン(4 stroke Internal Combustion Engine)
https://tinyurl.com/bdc7kec4 農業機械 ①4サイクルエンジン
ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินหรือเครื่องยนต์
แกโซลีน ( เครื่องยนต์
แกโซลีนหรือgasoline engine นี้อ้างอิงตามศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสภา ) นี้เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยตามเนื้อหากับรูปด้านบนนี้เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 4 จังหวะ ที่เรามักจะจำกับแบบง่ายๆเป็น 4 จังหวะสั้นๆ ดังนี้คือ ดูด อัด ระเบิด และคาย หรือเขียนแบบข้อความเต็มเป็น จังหวะดูด ( intake stroke, 吸入, きゅうにゅう, คีวนีว ซึ่งจังหวะนี้จะเป็นการดูดเชื้อเพลิง-อากาศที่เรียกว่าไอดีเข้าไปในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ) จังหวะอัด ( compression stroke, 圧縮, あっしゅく, อัชชูคคุ ซึ่งจังหวะนี้จะเป็นการเคลื่อนที่ของลูกสูบขึ้นด้านบนไปสู่จุดศูนย์ตายบน จึงทำให้ส่วนที่เรียกว่าไอดีนั้นถูกกดอัดให้มีปริมาตรที่เล็กลงอยู่ภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์นั้น ) จังหวะกำลังหรือจังหวะระเบิดหรือจังหวะสันดาป ( power strokeหรือexpansion stroke, 膨張หรือ爆発หรือ燃焼, ぼうちょうหรือばくはつหรือねんしょう, โบโจหรือบัคฮัทซึหรือเน็นโช ซึ่งจังหวะนี้หัวเทียนจะสปาร์กหรือเรียกว่าการจุดระเบิดจึงทำให้ส่วนที่เรียกว่าไอดีนั้นถูกเผาไหม้-เกิดการขยายตัวแล้วสร้างกำลังให้กับเครื่องยนต์ เพราะกระบอกสูบของเครื่องยนต์จะถูกดันลงด้านล่างไปสู่จุดศูนย์ตายล่างแล้วทำให้เพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์หมุนแล้วส่งแรง-กำลังไปขับเคลื่อนยานยนต์ต่อไปได้ ) และจังหวะคาย ( exhaust stroke, 排気, はいき, ไฮคิ ซึ่งจังหวะนี้จะเป็นการเคลื่อนที่ของลูกสูบกลับขึ้นด้านบนไปสู่จุดศูนย์ตายบนอีกครั้งหนึ่งแล้วก็จะดันส่วนไอดีที่เผาไหม้และกลายสภาพไปแล้วซึ่งเราจะเรียกส่วนนี้ว่าไอเสีย ให้ออกไปจากกระบอกสูบของเครื่องยนต์ และเครื่องยนต์ก็พร้อมจะเริ่มการทำงานในวัฏจักรต่อไป )
หมายเหตุ ในอดีตตอนที่ผมเรียนอยู่เมื่อปี พ.ศ. 2525 เครื่องยนต์แบบหัวฉีดเชื้อเพลิงนั้นยังไม่มีการใช้ในเครื่องยนต์เบนซินหรือเครื่องยนต์แกโซลีน แต่จะมีหัวฉีดเชื้อเพลิงใช้อยู่แต่เฉพาะในเครื่องยนต์ดีเซล ( diesel engineหรือCompression ignition engineหรือCI engine, ディーゼルエンジンหรือディーゼル機関หรือ内燃機関, でぃーぜるえんじんหรือでぃーぜるきかんหรือないねんきかん, ดีเซะรุเอ็นยินหรือดีเซะรุคิคังหรือไนเน็งคิคัง ) เท่านั้น โดยเครื่องยนต์แกโซลีนในอดีตจะใช้ชิ้นส่วนที่เรียกว่าคาร์บูเรเตอร์ ( carburetorหรือcarburettorหรือcarburetter, キャブレター, きゃぶれたー, แคะบุเระตา ) ในการผสมเชื้อเพลิงกับอากาศสำหรับป้อนเข้าสู่กระบอกสูบของเครื่องยนต์ ส่วนในเครื่องยนต์เบนซินสมัยใหม่จะเปลี่ยนมาใช้หัวฉีดสำหรับทำการฉีดเชื้อเพลิงที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Fuel Injection: EFI, エレクトロニックフューエルインジェクション, えれくとろにっくふゅーえるいんじぇくしょん, เอะเร็คคุโทะโระนิคคุ ฟยู-เอะรุ-อินเย็คชน) ที่มีความเที่ยงตรง-แม่นยำกว่าคาร์บูเรเตอร์แทน เนื่องจากมีการควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Control Unit: ECU, 電子制御ユニット, でんしせいぎょゆにっと, เด็งชิเซเงียวยุนิตโตะ ) จึงทำให้การใช้เครื่องยนต์ในสภาวะความเร็วรอบใดๆ จะได้รับการตอบสนองในการจ่ายเชื้อเพลิงที่เหมาะสมแล้วทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์โดยไม่คงเหลือเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้เกิดการประหยัดแล้วไม่ก่อให้เกิดมลพิษปล่อยไปสู่อากาศภายนอก หรือกล่าวได้ว่าทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีตอีกด้วย